ทาวเวอร์เครนแบ่งออกเป็นหลายประเภท โดยแบ่งตามลักษณะการทำงานและการติดตั้ง ดังนี้
1.แบ่งตามลักษณะแขน (Jib)
เป็นประเภทที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในไซต์งานก่อสร้าง
แบบแขนราบ (Hammerhead Crane): มีแขนแนวนอน (jib) และมีรถเลื่อน (trolley) วิ่งไปมาบนแขนเพื่อยกวัสดุ เป็นประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เหมาะสำหรับพื้นที่กว้าง
แบบแขนกระดก (Luffing Jib Crane): มีแขนที่สามารถกระดกขึ้นและลงได้ ทำให้สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางหรืออาคารข้างเคียงได้ เหมาะสำหรับพื้นที่ก่อสร้างที่จำกัด หรือในเมืองใหญ่ที่มีอาคารหนาแน่น
แบบไม่มีหัว (Flat-Top Crane): เป็นทาวเวอร์เครนที่ไม่มีส่วนยอดหรือ “หัว” ทำให้ติดตั้งได้ง่ายขึ้น และเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีเครนหลายตัวทำงานใกล้กัน เพื่อลดความเสี่ยงที่แขนของเครนจะชนกัน
2.แบ่งตามวิธีการติดตั้ง
แบบติดตั้งอยู่กับที่ (Static/Stationary Tower Crane): ติดตั้งอยู่กับที่บนฐานรากคอนกรีต ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ เหมาะสำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่และระยะยาว
แบบเคลื่อนที่ (Mobile Tower Crane): เป็นทาวเวอร์เครนที่ติดตั้งบนฐานล้อเลื่อนหรือตีนตะขาบ สามารถเคลื่อนที่ไปมาในไซต์งานได้ เหมาะสำหรับโครงการที่มีการเคลื่อนย้ายจุดทำงานบ่อยๆ
แบบประกอบเอง (Self-Erecting Tower Crane): เป็นเครนขนาดเล็กที่สามารถประกอบและถอดได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องใช้เครนตัวอื่นช่วย มักใช้ในโครงการก่อสร้างขนาดเล็กหรือระยะสั้น
3.แบ่งตามวิธีการเพิ่มความสูง
แบบปีน (Climbing Tower Crane): เป็นเครนที่สามารถ “ปีน” ขึ้นไปพร้อมกับความสูงของอาคารได้ โดยจะมีการติดตั้งเครนเข้ากับโครงสร้างของอาคาร และจะเพิ่มส่วนของเสา (mast) ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามความสูงของตึก เหมาะสำหรับโครงการก่อสร้างตึกระฟ้าและอาคารสูงมากๆ
TAG : ทาวเวอร์เครนบูมกระดก , ทาวเวอร์เครนยกได้กี่ตัน , ทาวเวอร์เครนราคา , ทาวเวอร์เครนให้เช่า , ทาวเวอร์เครนมือสอง , ทาวเวอร์เครนขนาดใหญ่ , ทาวเวอร์เครนขนาดเล็ก , ส่วนประกอบทาวเวอร์เครน , ทาวเวอร์เครนบูมราบ
Leave A Comment